ปราสาทบายนเป็นศูนย์กลางของนครธมตามแผนภูมิของจักรวาล พระพักตร์แห่งบายนของนครธมกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา ปรางค์ของปราสาทบายนสร้างเป็นรูปใบหน้ามนุษย์น่าจะหมายถึงพระชัยวรมันที่ 7 ในรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เนื่องจากพระองค์ถือว่าตนเองเป็นพุทธราชาเหมือนเป็นอวตารปางหนึ่งของพระโพธิสัตว์
ปราสาทบายนของนครธมเป็นปราสาทแห่งแห่งเดียวที่ไม่มีกำแพง ชื่อบายนหมายความว่าปราสาทที่มีผังรูปยันต์ ภาพแกะสลักระเบียงคต
ทั้งสี่ด้านของปราสาทบายนไม่มีเรื่องราวเทพเจ้าในศาสนา แต่เป็นเรื่องราวการทำสงครามของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทั้งสิ้น
รอยยิ้มแห่งบายประทับใจผู้ไปเยือนนครธมกัมพูชา สงบเยือกเย็นจ้องมองเราทุกทิศ รอยยิ้มขนาดมหึมาที่จ้องมองมาที่เราเมื่อเยือนนครธม รอยยิ้มที่กำแพง รอยยิ้มที่ยอดปรางค์ รอยยิ้มอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มจากทั่วสารทิศ มองไปทางไหนก็เจอ ช่างเป็นภาพที่ระทึกใจยิ่งนัก
ปราสาทบาปวนเป็นปราสาทศูนย์กลางเมืองยโสธรปุระ มีบันทึกว่าตัวปราสาทลาบด้วยทองคำตอกหมุดติดเนื้อหิน มีองค์ปราสาทหลังเดียวที่ก่อด้วยหิน ตั้งอยู่บนฐานเป็นชั้นเหมือนภูเขา มีระเบียงสองชั้นลวดลายแกะสลักจัดเป็นศิลปะเขมรแบบบาบวน และเป็นต้นแบบของปราสาทหินทั้งหลายแห่งในเมืองไทย เช่น ปราสาทหินพิมาย ปราสาทเมืองต่ำ และบางส่วนของปราสาทพนมรุ้ง
ปราสาทพิมานอากาศตัวปราสาทสร้างด้วยหินพิมาย ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงทรงพีระมิด มีบันไดขึ้นทั้งสี่ทิศ เชื่อว่าเป็นปราสาทที่ประดิษฐานเทพเจ้าประจำวัน กล่าวกันว่ากษัตริย์จะต้องมาสวดมนต์บูชาเทพเจ้าก่อนบรรทมทุกคืน มีบันทึกเพิ่มเติมของชาวต่างชาติกล่าวไว้ในบันทึกว่า เป็นสถานที่กษัตริย์จะต้องสมสู่กับนางนาคเป็นประจำทุกคืน
ลานช้างและลานพระเจ้าขี้เรื้อนเป็นลานต่อเนื่องกัน สันนิษฐานว่าใช้เป็นสนามในพระราชพิธี เป็นลานสำหรับตั้งพลับพลาเพื่อให้พระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ เหล่าพราหมณ์และขุนนางทั้งหลายนั่งชมพระราชพิธี มีรูปภาพแกะสะบักครุฑแบกและยักษ์แบกขนาดใหญ่ บางตัวเป็นครุฑหัวสิงห์ที่ซึ่งไม่พบในที่อื่น และมีภาพแกะสลักนูนต่ำเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับช้างมากมาย มีภาพประติมากรรมม้าห้าหัวที่กำแพงซึ่งไม่มีพบในที่อื่น รูปประติมากรรมพระเจ้าขี้เรื้อน เคยมีประติมากรรมลอยตัวรูปคนชันเข่าที่มีไลเคนและมีเชื้อราจับเนื้อทรายเหมือนคนเป็นโรคเรื้อน มีการพบรูปพระยมสันนิษฐานว่าฉากนี้ใช้ประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับพระบรมศพของกษัตริย์และเจ้านายชั้นสูง ลักษณะเดียวกันของทุ่งพระเมรุของไทย