เกาะลังกาวี เกาะต้องคำสาบลังกาวี เที่ยวมาเลเซีย
|
เกาะลังกาวีเป็นเกาะต้องคำสาปจากสตรีที่ถูกประหารด้วยความอยุติธรรม เกาะลังกาวีเคยเป็นเกาะที่อยู่ในอาณาเขตประเทศสยามก่อนสงครามโลก หลังจากถอนคำสาปทำให้เกาะลังกาวีเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเรื่อย เกาะลังกาวีกลายเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของประเทศมาเลเซีย เกาะลังกาวีห่างจากเกาะตะรุเตาจังหวัดสตูลของประเทศไทยเพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้น ลังกาวีมาจากคำว่านกอินทรีหรือเฮอลังในภาษามาเลย์ ส่วนคำว่ากาวีหมายถึงสีน้ำตาลแกมแดง ดังนั้นลังกาวีจึงหมายถึงนกอินทรีสีน้ำตาลแกมแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะลังกาวี
เกาะลังกาวีตามตำนานกล่าวขานว่าเป็นเกาะต้องคำสาป ตำนานเล่าว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนบุตรสาวของพ่อค้าจากเกาะภูเก็ตชื่อมัสสุหรี เป็นเด็กจิตใจดีเป็นที่รักของคนทั่วไปได้แต่งงานกับองค์รัชทายาทเจ้าชายวันดารุสผู้ครองเกาะลังกาวี มีโอรสด้วยกันหนึ่งพระองค์นามว่าวันฮาเกม ต่อมาพระนางมัสสุหรีถูกพระมารดาขององค์รัชทายาทกล่าวหาว่าคบชู้ ตอนพระสวามีออกไปทำศึกสงครามจึงถูกตัดสินประหารชีวิต ก่อนตายนางได้อธิษฐานว่าหากตนบริสุทธิ์ขอให้เลือดไหลออกมาเป็นสีขาว พร้อมสาปแช่งให้ผู้คนบนเกาะลังกาวีประสบแต่ความทุกข์ยากตลอด 7 ชั่วอายุคน วันประหารคมกริชจดลงไปบนคอของพระนางโลหิตสีขาวก็พวยพุ่งขึ้นสู่เบื้องบน แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของนาง เมื่อองค์รัชทายาทพระสวามีของพระนางมัสสุหรีเสด็จกลับมา สภาพเกาะเหมือนเกาะร้าง แทนที่จะมีเสียงประชาชนเข้ามาล้อมต้อนรับเช่นทุกครั้งแต่กลับเงียบเหมือนเมืองร้าง ผู้คนไม่รู้หายไปไหนหมด และเมื่อทรงทราบเรื่องภรรยาผู้เป็นที่รักตายจากไป ก็ทรงโศกเศร้าเป็นอย่างมาก ทรงตัดสินพระทัยสละราชสมบัติแล้วหอบโอรสกลับไปยังจังหวัดภูเก็ตบ้านเกิดของพระนางมัสสุหรี แล้วอาศัยอยู่ที่นั้นจนช่วงสุดท้ายของชีวิต
ทางด้านพระมารดาขององค์รัชทายาทเมื่อสิ้นพระชนม์ พระศพก็ไม่สามารถฝั่งที่ใดบนเกาะลังกาวีได้เลย ฝังที่ใดทรายก็จะดันร่างขึ้นมาเสมอ จนต้องไปกลับทำพิธีบนบานที่สุสานพระนางมัสสุหรี จึงสามารถนำพระศพไปฝั่งไว้ที่บริเวณหาดทรายได้ แต่สีของหาดทรายกลายเป็นสีดำในทันทีเมื่อร่างถูกฝังลงไปอย่างที่ปรากฏหาดทรายสีดำในปัจจุบัน
สำหรับสุสานของพระนางมัสสุหรีนั้นปัจจุบันตั้งอยู่บนเกาะลังกาวี สร้างด้วยหินอ่อนและจารึกภาษามาเลเซียและภาษาอังกฤษ ซึ่งมีข้อความว่ามัสสุหรีผู้รับเคราะห์กรรมจากการทรยศหักหลัง และความอิจฉาริษยาจนถูกตัดสินให้นางถึงแก่ความตายลง เมื่อศักราชอิสลาม1235 หรือคริสต์ศักราช1819 พุทธศักราช พ.ศ. 2362 นางสิ้นชีวิตลงพร้อมกับคำสาปแช่งที่แห่งนี้ว่า จะไม่เกิดสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองบนเกาะแห่งนี้เป็นเวลา 7 ชั่วอายุคน' และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมมเกาะลังกาวีก็กลายเป็นดินแดนที่เงียบเหงา ผู้คนอยู่กันอย่างไม่มีความสุข มาตั้งแต่ พ.ศ.2362 กินเป็นเวลา 181 ปี เป็นอาถรรพ์ครอบคลุมมาถึง 7 ชั่วอายุคน จนกลายเป็นที่มาของการตามหาทายาทรุ่นที่ 7 ของพระนางมัสสุหรี เพื่อไปถอนคำสาป นำนางศิรินทรา ยายี สตรีชาวไทยที่สืบเชื้อสายทายาทรุ่นที่เจ็ดของมะห์สุหรีมาถอดคำสาป โดยหลังการไปถอนคำสาปที่เกาะลังกาวีในครั้งนั้น ทำให้เกาะแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ประกอบทางรัฐบาลมาเลเซียได้ใช้งบประมาณมหาศาลในการฟื้นคืนชีพเกาะลังกาวี จนกลายเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน |
|
หาดทรายดำเป็นหาดทรายที่มีความแปลกประหลาดไม่กี่แห่งของโลก โดยเนื้อทรายของหาดทรายดำนั้นมีความละเอียดแต่เม็ดทรายกลับเป็นสีดำ จึงทำให้หาดทรายทรายดำแห่งนี้ไปพ้องกับตำนานของพระนางเลือดขาวเข้าพอดิบพอดี และว่ากันว่าหลังจากพระนางสิ้นพระชนม์ไปแล้วหาดทรายจากสีขาวก็เปลี่ยนเป็นสีดำ โดยปัจจุบันหาดทรายดำแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ในการมาชมความแปลกประหลาดของหาดทรายที่มีสีดำ แต่ก็มีการกล่าวกันว่าหลังจากทำพิธีถอนคำสาปแล้วก็ทำให้เม็ดทรายสีดำเริ่มมีปริมาณลดลงกว่าแต่ก่อนอย่างมาก |
|
จัตุรัสอินทรีนับว่าเป็นสัญลักษณ์ของเกาะลังกาวีอย่างแท้จริง เป็นจุดที่เปรียบเสมือนกับสัญลักษณ์ของลังกาวี และเป็นสิ่งที่แสดงที่มาของชื่อเกาะที่มาจากคำว่าเฮอลังกาวี ที่แปลความได้ว่านกอินทรีสีน้ำตาลแดง ทำให้มีการก่อสร้างประติมากรรมนกอินทรีในท่ากำลังจะสยายปีกโบยบินขึ้นไป นับว่าเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมความสวยงามของท้องทะเลเบื้องหน้าและมาถ่ายภาพกับประติมากรรมนกอินทรีตัวนี้ |
|
ออเรนทัลวินเลจมีสะพานที่มีความสูงและหวาดเสียวอย่างมาก ติด 1 ใน 10 ของสะพานที่มีความหวาดเสียวมากที่สุดในโลก นอกจานี้แล้วก็ยังมีน้ำตก 7 บ่อที่มีความแปลกตาสวยงาม และมีเคเบิลคาร์ที่จะพาขึ้นไปยังยอดเขากูนุงมัตจิงจัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวที่มีความสวยงามและสามารถมองเห็นเกาะลังกาวีได้ทั้งเกาะ |
|
สุสานพระนางมัสสุหรีเป็นจุดที่มีความเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ฝังพระศพของพระนางมัสสุหรี โดยภายในมีการจัดแสดงเรื่องราวของตำนานเรื่องนี้ให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจมาเข้าชมกัน โดยมีการจะแสดงแบบจำลองเหตุการณ์ของตำนานเรื่องนี้อีกด้วย รวมทั้งมีการจำลองบ้านพักของพ่อแม่พระนางที่สร้างบริเวณจุดเดิมของบ้านแห่งนี้ ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยวชมกันอย่างมากมาย |
|
แกลเลอเรียเปอร์ดานาเป็นสถานที่จัดแสดงของกำนัลต่างๆจากนาๆประเทศ สมัย ดร.มหาธีร์ มูอัมหมัด ที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีข้าวของแปลกตาและล้ำค่าอย่างมากมายจัดแสดงเอาไว้ในหลายห้อง ที่สะดุดตาก็คือจะเป็นบรรดารถโบราณ และรถแข่งเอฟวัน โดยทั้งหมดนั้นเป็นสมบัติของชาติ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของเกาะลังกาวีเลยทีเดียว |
|
ตลาดกัวห์แหล่งช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีของเกาะลังกาวี มีสินค้าให้เลือกซื้ออย่างมากมาย มีอาหารทะเลสดให้ได้ลิ้มรสอย่างเต็มที่ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
บั้งไฟพญานาคขึ้นที่โขงเจียมอุบล |
|
|
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
15
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
1,145
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
3,101,080
|
เปิดเว็บ
|
24/11/2556
|
ปรับปรุงเว็บ
|
17/12/2566
|
|
|
|
|
21 พฤศจิกายน 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
| | | | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|