พระธาตุหล้าหนอง พระธาตุกลางน้ำหนองคาย
|
พระธาตุหล้าหนอง พระธาตุกลางน้ำโขง |
พระธาตุกลางน้ำมหัศจรรย์แห่งลุ่มน้ำโขงตั้งอยู่กลางลำน้ำโขงบริเวณคุ้มวัดท่า อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เดิมชื่อพระธาตุหล้าหนองคายต่อมาเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ว่าพระธาตุเมืองหนองคาย ตามตำนานโบราณกล่าวว่า เป็นพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเดิมตั้งอยู่บนบกริมฝั่งน้ำโขง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.19 โดยพระอรหันต์ 5 องค์ได้อันเชิญพระสารีริกธาตุบาตรเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า 9 องค์มาประดิษฐานไว้ ณ เมืองหนองคาย โดยมีพระมหาสังขพิชัยพร้อมชาวเมือง และพระยาสุทโทนาคราชร่วมกันสร้างอุโมงค์หินบรรจุพระบรมธาตุไว้ ต่อมา พ.ศ.2109 พระเจ้าไชยเชษฐา พระราชบริพารจากเวียงจันทน์ร่วมกับชาวเมืองหนองคาย สร้างพระมหาเจดีย์ครอบคลุมพระธาตุไว้ กาลต่อมากระแสแม่น้ำโขงได้ไหลเปลี่ยนทิศทางกัดเซาะริ่มฝั่งเมืองหนองคอยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดองค์พระธาตุก็ได้พังทลายลงในแม่น้ำโขง เมื่อวันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 พ.ศ.2390 เวลาพลบค่ำ เมื่อน้ำกัดเซาะนานปีเข้าองค์พระธาตุก็ตั้งอยู่กลางแม่น้ำโขง ดังที่ปรากฏเป็นพระธาตุกลางน้ำให้เห็นดังเช่นปัจจุบัน ซึ่งอยู่ห่างฝั่งหนองคายประมาณ 200 เมตร สามารถมองเห็นองค์พระธาตุได้ชัดเจนช่วงเดือนธันวาคม – เดือนพฤษภาคม ซึ่งมองเห็นองค์พระธาตุโผล่เหนือน้ำประมาณ 3 เมตรอย่างชัดเจน หน้าน้ำหลากจะปรากฏแต่กระแสน้ำโขงที่เชี่ยวกราด หลั่งไหลประทะองค์พระธาตุเกิดเป็นฟองน้ำเชี่ยวไหลวนให้เป็นที่สังเกตจุดที่ตั้งองค์พระธาตุ จากเหตุการณ์องค์พระธาตุพังทลายลงกลางแม่น้ำโขง ทำให้ชาวเมืองหนองคายเชื่อว่า เป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ของพระญานาคทำการอันเชิญพระธาตุไปประดิษฐานที่ถ้ำบาดาลไว้มิให้สูญหาย
บริเวณพระธาตุหล้าหนองนี้ชาวบ้านคุ้มวัดท่ายังประสบกับเหตุประหลาดเกิดขึ้นที่องค์พระธาตุ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2539 บริเวณพระธาตุกลางน้ำมีชาวบ้านเห็นสัตว์ประหลาดเหมือนงูขนาดใหญ่ชึ้นมาแหวกว่ายทวนน้ำเล่นอยู่ใกล้องค์พระธาตุ มองเห็นทางยาวออกไปประมาณ 20 เมตร ชาวบ้านใกล้ไกลต่างแห่แหนมามุงดูสิ่งประหลาดกลางลำน้ำโขงกันเต็มฝั่งสร้างความแตกตื่นกลหนกันไปต่างๆ นาๆ บ้างก็ว่าเห็นเหมือนงูตัวใหญ่ยาว 10 เมตร เห็นลำตัวเป็นสีดำ สีเขียว เห็นเกล็ดเป็นมันแวววาว บ้างก็บอกว่าเห็นเหมือนปลาประหลาดที่ทหารอเมริกันจับได้ทางแถบทะเลแดงซึ่งมีความยาว 23 ฟุต ลำตัวเป็นเกล็ดมี 7 สี มีเลือดสีเขียว เหมือนหัวเหมือนพญานาคตามโบสถ์ เสียชีวิตเพราะถูกใบพัดเรือตัด ทหารอเมริกันเรียกชื่อว่า “ออลฟิช” คนไทยลุ่มน้ำโขงเรียกว่า “พญานาค” บางคนก็ว่าเหมือนปลาดาบเงินที่อาศัยอยู่ในทะเล บางคนบอกว่าเป็นฝูงปลาไหลยักษ์ในแม่น้ำโขง บ้างก็ว่าเหมือนกลุ่มปลาตัวหนาขนาดใหญ่ขึ้นมาว่ายน้ำเล่น ก็อธิบายว่าเป็นผลจากสายน้ำเชี่ยวของฤดูน้ำหลากไหลกระทบองค์พระธาตุเกิดคลื่นใต้น้ำขึ้น แต่ชาวบ้านแถบนี้เชื่อว่าเป็นพญานาคที่เฝ้าพิทักษ์รักษาองค์พระธาตุขึ้นมานมัสการพระธาตุกลางน้ำเป็นนิมิตให้คนได้เห็นในช่วงเข้าพรรษา และยังเคยบั้งไฟพญานาคปรากฏขึ้นให้ผู้คนได้พบเห็นที่พระธาตุกลางน้ำแห่งนี้หลายครั้ง
และเมื่อวันที่ 30 เดือนตุลาคม พ.ศ.2547 วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของไทย 15 ค่ำเดือน 11 วันออกพรรษา ได้มีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเหนือพระธาตุกลางน้ำโขงเวลาประมาณ 17.00 มีผู้ถ่ายภาพวิดีโอสมัครเล่นถ่ายภาพได้โดยบังเอิญ ท่ามกลางสายตาชาวเมืองหนองคายนับร้อยที่ได้เหตุการณ์ประหลาดที่ได้เกิดขึ้นนี้ร่วมกัน ผู้ได้พบเห็นเหตุการณ์เชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ที่พญานาค 7 ตนว่ายน้ำมาสักการะพระธาตุกลางน้ำโขง เหตุการณ์ประหลาดครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นเวลา 13 นาที
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
บั้งไฟพญานาคขึ้นที่โขงเจียมอุบล |
|
|
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
18
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
1,334
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
3,101,269
|
เปิดเว็บ
|
24/11/2556
|
ปรับปรุงเว็บ
|
17/12/2566
|
|
|
|
|
21 พฤศจิกายน 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
| | | | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|