ปากปล่องพญานาคสู่โลกมนุษย์
|
พญานาคราชสีสุทโธขอเส้นทางสู่โลกมนุษย์ |
ในตำนานอุรังคธาตุกล่าวถึงพญานาคตอนหนึ่งว่า มีพญานาคสองตนชื่อพญาสุวรรณนาคกับพญาสุทโธนาคได้ครอบครองหนองแสอยู่คนละส่วน วันหนึ่งพญานาคทั้งสองเกิดขัดข้องหมองกันเรื่องหนึ่งพรรณนานั้นจึงก่อสงครามต่อสู้กัน ทั้งสองฝ่ายต่างสู้รบกันอยู่นาน 7 ปี 7 เดือน 7 วัน เป็นเหตุให้นครทั้งสามภพ ทั้งภพบาดาล ภพมนุษย์และภพสวรรค์ การสู้รบของพญานาคทั้งสองบังเกิดความร้อนถึงพระอินทร์ พระอินทร์จึงได้เสด็จลงมาถึงหนองแสและเข้าห้ามปราบไม่ให้รบซึ่งกัน พระอินทร์จึงตั้งกติกาให้พญานาคทั้งสองแข่งกันขุดแม่น้ำโขงและแม่น้ำน่าน ใครขุดถึงทะเลก่อนกันพระอินทร์ปลาบึกให้เป็นรางวัล ในที่สุดก็ปรากฏว่า พญาสุทโธนาคเป็นฝ่ายชนะ ผู้ได้ปลาบึกมาไว้ยังแม่น้ำโขงเพียงผู้เดียว ดังนั้นปลาบึกจึงปรากฏมีเพียงในแม่น้ำโขงที่เดียวในโลก นอกจากนี้พญาสุทโธนาค ได้ขอร้องเอาปากปล่องประตูทางขึ้นลงต่อพระอินทร์เพื่อติดต่อกับเมืองมนุษย์และสวรรค์ไว้สามแห่ง
ปากปล่องพญานาคแห่งที่หนึ่งอยู่ที่บริเวณพระธาตุหลวงใจกลางนครเวียงจันทน์ประเทศลาว ตามตำนานเล่าว่าบริเวณพระธาตุหลวงจะมีลักษณะเป็นปากปล่องลึกเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ใต้ดิน ซึ่งต่อมาได้สร้างพระธาตุครอบไว้
ปากปล่องพญานาคแห่งที่สองอยู่ที่บริเวณดอนจันของลาว ดอนจันเป็นเกาะขนาดใหญ่กลางแม่น้ำโขงตรงข้ามกับอำเภอศรีเชียงใหม่จังหวัดหนองคาย ผุ้คนลุ่มน้ำโขงแถบนี้เชื่อว่าบริเวณหาดดอนจันมีประตูพญานาคท่พญาสุทโธนาคร้องขอไว้อีกแห่ง
ปากปล่องพญานาคแห่งที่สามอยู่ที่เมืองคำชะโนด ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี คำชะโนดมีลักษณะเป็นปล่องขนาดใหญ่ขึ้นกลางน้ำทั่วอาณาบริเวณคำชะโนดมีต้นไม้ลักษณะประหลาดชนิดหนึ่งขึ้นเต็มบริเวณ ต้นไม้ชนิดนี้มีชื่อเรียกว่าต้นชะโนด จากหลักฐานข้อมูลลักษณะของต้นไม้ชนิดนี้ได้รับการยืนยันว่ามีอยู่เฉพาะที่นี้แห่งเดียวในโลก ต้นชะโนดมีลักษณะคล้ายกับต้นมะพร้าว ต้มหมากและต้นตาลผสมกัน แต่มีขนาดเล็กกว่าต้นตาล ลำต้นเท่ากับต้นมะพร้าวกาบห่อหุ้มตามกาบรอบต้นจะมีหนามแหลมคมน่าเกรงขาม เมื่อยามต้นชะโนดต้องลมจะมีเสียง วืดๆ หวือๆ ฟังแล้วน่าสะพรึงกลัว บริเวณด้านในของเกาะคำชะโนดมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธ์หรือปล่องพญานาคปรากฏอยู่ในนั้น
วังนาคินทร์คำชะโนดแห่งนี้ปรากฏตำนานลี้ลับมหัศจรรย์มากมาย ตามตำนานเล่าว่าพระอินทร์ให้สุทโธนาคมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนี้ซึ่งมีต้นชะโนดขึ้นเป็นสัญลักษณ์ และพระอินทร์ได้กำหนดไว้ว่า ในหนึ่งเดือนเมื่อถึงข้างขึ้น 15 วันให้สุทโธนาคกลายร่างเป็นมนุษย์ สุทโธนาคเมื่อกลายร่างเป็นคนมีชื่อว่าเจ้าพ่อพระยาสีสุทธ มีวังนาคินทร์ คำชะโนดเป็นถิ่นพำนัก ส่วนอีก 15 วันในวันข้างแรม พระอินทร์ให้สุทโธนาคและบริวารกลายร่างเป็นนาค เมื่อสุทโธนาคกลายร่างเป็นนาคมีชื่อเรียกว่าพญานาคราชสีสุทโธ และให้อาศัยอยู่ในเมืองบาดาล ชาวบ้านที่อาศัยทำมาหากินระแวกนั้นจะพบเห็นสิ่งมหัศจรรย์และมิติลี้ลับอยู่เสมอ เช่น เห็นชาวเมืองชะโนดไปเที่ยวงานบุญบ้าง เห็นผู้หญิงไปยืมเครื่องมือทอผ้าจากชาวบ้านบ้าง หรือบางครั้งชาวเมืองชะโนดจัดงานบุญประจำปีและจ้างหนังไปฉายคำชะโนด ก็เคยมีเป็นที่กล่าวขานกันจนหน่วยฉายหนังเร่เมืองอุดรหวาดผวาไปตามๆกัน หรือแม้เวลาที่เกิดน้ำท่วมใหญ่บริเวณรอบๆตัวเกาะเมืองชะโนดก็ยกตัวลอยขึ้นทั้งเกาะ น้ำจึงท่วมไม่ถึงตัวเกาะคำชะโนด ครั้นเมื่อเวลาน้ำลดตัวเกาะก็จะลดลงเหมือนเดิมเป็นที่มหัศจรรย์ยิ่ง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
บั้งไฟพญานาคขึ้นที่โขงเจียมอุบล |
|
|
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
16
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
1,439
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
3,101,374
|
เปิดเว็บ
|
24/11/2556
|
ปรับปรุงเว็บ
|
17/12/2566
|
|
|
|
|
21 พฤศจิกายน 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
| | | | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|